สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 5-11 กรกฎาคม 2562

 

ข้าว
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
1.1 แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปีการผลิต 2562/63
มติที่ประชุม คณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) ครั้งที่ 1/2562 เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 เห็นชอบแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปีการผลิต 2562/63 และมติที่ประชุม นบข. ครั้งที่ 2/2562 เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 เห็นชอบในหลักการตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปีการผลิต 2562/63 ตามมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการกำกับติดตามแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2562 การดำเนินงานประกอบด้วย 5 ช่วง ดังนี้
ช่วงที่ 1 การกำหนดอุปสงค์ อุปทานข้าว ได้กำหนดอุปสงค์ 32.48 ล้านตันข้าวเปลือก อุปทาน 34.16 ล้านตันข้าวเปลือก
ช่วงที่ 2 ช่วงการผลิตข้าว ได้แก่
1) การกำหนดพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าว เป้าหมาย รอบที่ 1 จำนวน 58.99 ล้านไร่
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้ประกาศพื้นที่เป้าหมายส่งเสริมการปลูกข้าวแล้ว เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2562 และ รอบที่ 2 จำนวน 13.81 ล้านไร่
2) การขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว เป้าหมาย รอบที่ 1 จำนวน 4.00 ล้านครัวเรือน และ รอบที่ 2 จำนวน 0.30 ล้านครัวเรือน
3) การจัดการปัจจัยการผลิต ได้แก่ โครงการผลิตและกระจายเมล็ดพันธุ์ดี และควบคุมค่าเช่าที่นา
4) การปรับปรุงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ การจัดรูปที่ดินและปรับระดับพื้นที่นา
5) การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าว ได้แก่ (1) โครงการระบบส่งเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ่
(นาแปลงใหญ่) (2) โครงการส่งเสริมการผลิตและการตลาดข้าวพันธุ์ กข43 (3) โครงการส่งเสริมระบบเกษตรแบบแม่นยำสูง (4) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นเลิศ (5) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ (6) โครงการรักษาระดับปริมาณการผลิตและคุณภาพข้าวหอมมะลิ (7) โครงการปรับเปลี่ยนระบบการผลิตข้าวในพื้นที่ลุ่มต่ำ 13 ทุ่ง
(8) โครงการปรับเปลี่ยนพื้นที่ไม่เหมาะสมกับการปลูกข้าวไปเป็นพืชอื่น (Zoning by Agri-Map) (9) โครงการส่งเสริม
การปลูกพืชหลากหลาย (10) โครงการปลูกพืชปุ๋ยสด และ (11) โครงการประกันภัยพืชผล
ช่วงที่ 3 ช่วงการเก็บเกี่ยวและหลังเก็บเกี่ยว ได้แก่ (1) โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
รถเกี่ยวนวดข้าว และ (2) โครงการยกระดับมาตรฐานโรงสี กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน เพื่อเพิ่มศักยภาพการเชื่อมโยงตลาดข้าวนาแปลงใหญ่
ช่วงที่ 4 ช่วงการตลาดในประเทศ ได้แก่ (1) โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร (2) โครงการรณรงค์บริโภคข้าวและผลิตภัณฑ์ข้าวของไทยทั้งตลาดในประเทศ และต่างประเทศ พ.ศ. 2563-2565
(3) โครงการประชาสัมพันธ์เพื่อส่งเสริมและสร้างการรับรู้ถึงคุณประโยชน์ของการบริโภคผลผลิตภัณฑ์น้ำนมข้าว
(4) โครงการรณรงค์บริโภคข้าวสาร Q และข้าวพันธุ์ กข43 ปีการผลิต 2561/62 (5) โครงการช่วยเหลือค่าเก็บเกี่ยว
และปรับปรุงคุณภาพข้าว (6) โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตรกร (7) โครงการชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ประกอบการในการเก็บสต็อก และ (8) โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือก
ช่วงที่ 5 ช่วงการตลาดต่างประเทศ ได้แก่ (1) การจัดหาและเชื่อมโยงตลาดต่างประเทศ
(2) การส่งเสริมภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ข้าว ผลิตภัณฑ์ และนวัตกรรมข้าว (3) การส่งเสริมพัฒนาการค้าสินค้ามาตรฐานและปกป้องคุ้มครองเครื่องหมายการค้า/เครื่องหมายรับรองข้าวหอมมะลิไทย และ (4) การประชาสัมพันธ์
การบริโภคข้าวและผลิตภัณฑ์ของไทยทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ
1.2 ราคา
1) ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 15,493 บาท ราคาลดลงจากตันละ 15,726 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.48
ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 7,687 บาท ราคาลดลงจากตันละ 7,771 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.09
2) ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 33,810 บาท ราคาลดลงจากตันละ 33,850 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.11
ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 11,290 บาท ราคาลดลงจากตันละ 11,470 บาท
ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.56
3) ราคาส่งออกเอฟโอบี
ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 1,107 ดอลลาร์สหรัฐฯ (33,750 บาท/ตัน)
ราคาลดลงจากตันละ 1,134 ดอลลาร์สหรัฐฯ (34,462 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.38 และลดลงในรูปเงินบาท
ตันละ 712 บาท
ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 412 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,561 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 419 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,733 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.67 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 172 บาท
ข้าวขาว 25% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 406 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,378 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 413 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,551 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.69 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 173 บาท
ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 415 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,652 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 423 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,855 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.89 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 203 บาท
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยนสัปดาห์นี้ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 30.4876
 
 
 
2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ
ไทย
รายงานข่าวจากสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์เงินบาทแข็งค่าทำให้ภาวะราคาข้าวไทย
มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น เฉลี่ย 5-10 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน ส่งผลให้มีช่องว่างระหว่างราคาข้าวไทยและประเทศคู่แข่งมากขึ้น
โดยราคา ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2562 ข้าวหอมมะลิไทยชนิดคัดพิเศษ (ปี 2560/61) ตันละ 1,225 ดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อน (19 มิถุนายน 2562) ที่ราคาตันละ 1,209 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าวสาร 100% ชั้น 2 ราคาตันละ 442 ดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นจากตันละ 436 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าวสาร 25% ราคาตันละ 417 ดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นจากตันละ 411 ดอลลาร์สหรัฐ ข้าวเหนียว 10% ราคาตันละ 1,030 ดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นจากตันละ 1,017 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ ราคาข้าวขาว 5% ตันละ 426 ดอลลาร์สหรัฐ สูงขึ้นจากเดือนที่ผ่านมาร้อยละ 5 ขณะที่เว็บไซต์ oryza.com รายงานว่าราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม และอินเดีย ทรงตัวอยู่ที่ตันละ 373-377 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ปากีสถานราคาอ่อนตัวลงอยู่ที่ตันละ 358-362 ดอลลาร์สหรัฐ
ช่วงนี้ภาวะการค้าในตลาดส่งออกค่อนข้างซบเซา เนื่องจากประเทศผู้ซื้อยังคงมีสต็อกข้าวที่นำเข้าไปก่อนหน้านี้เพียงพอแล้ว จึงยังไม่เร่งรีบซื้อเพิ่มเติม และบางส่วนรอดูราคาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ
ขณะนี้การแข่งขันในตลาดส่งออกมีมากขึ้นจากการที่ประเทศจีนมีบทบาทในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ลดลง
ทำให้ทั้งไทยและอินเดียสูญเสียส่งแบ่งตลาดบางส่วน โดยเฉพาะตลาดแอฟริกาให้แก่จีน ซึ่งปีนี้คาดว่าจีนจะส่งออก
ได้มากกว่า 3 ล้านตัน
สำหรับประเทศผู้ส่งออกข้าวที่สำคัญ ได้แก่ อินเดีย โดย 5 เดือนแรกของปีนี้ ส่งออกปริมาณ 4.64 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 13 เวียดนาม ส่งออกปริมาณ 2.61 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 18 ปากีสถาน ส่งออกปริมาณ 1.82 ล้านตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.6 สหรัฐ ส่งออกปริมาณ 1.21 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 14.6
รายงานข่าวระบุเพิ่มเติมว่า สถานการณ์การส่งออกข้าวในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2562 (มกราคม-พฤษภาคม)
ปริมาณ 3,779,313 ตัน มูลค่า 62,418 ล้านบาท ปริมาณและมูลค่าลดลงร้อยละ 14.8 และร้อยละ 12.3 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2561 สำหรับการส่งออกข้าวในเดือนพฤษภาคม 2562 มีปริมาณ 667,257 ตัน มูลค่า 11,348 ล้านบาท ปริมาณและมูลค่าลดลงร้อยละ 5.1 และร้อยละ 1.0 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว เนื่องจากการส่งออกข้าวขาวและข้าวนึ่งมีปริมาณลดลงค่อนข้างมาก โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศแองโกลา แคเมอรูน ญี่ปุ่น มาเลเซีย เบนิน ฟิลิปปินส์ เคนยา โตโก โมซัมบิก สำหรับข้าวหอมมะลิ มีปริมาณ 84.852 ตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.2 เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังตลาดหลัก เช่น สหรัฐ ฮ่องกง แคนาดา สิงคโปร์ เป็นต้น
ทั้งนี้ สมาคมฯ คาดว่า ในเดือนมิถุนายนนี้ปริมาณส่งออกจะอยู่ที่ระดับประมาณ 7 แสนตัน โดยคาดว่าในช่วงนี้
จะเป็นการส่งมอบทั้งข้าวขาวและข้าวนึ่งให้กับตลาดประจำในแถบแอฟริกา เช่น เบนิน แองโกลา แอฟริกาใต้ แคเมอรูน โมซัมบิก เป็นต้น
ขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิ ข้าวหอมไทย ไปยังตลาดประจำ เช่น สหรัฐ ฮ่องกง แคนาดา ยังคงมี
อย่างต่อเนื่องแม้ว่าปริมาณข้าวหอมมะลิจะลดลงแต่การส่งออกข้าวหอมไทยยังคงมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้น
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ
กัมพูชา
ยอดการส่งออกข้าวของกัมพูชาไปอียูลดลงอย่างมากในช่วงครึ่งแรกของปี 2562 หลังอียูกำหนดอัตราภาษีนำเข้า แต่ยอดจำหน่ายข้าวให้แก่ตลาดจีนเพิ่มสูงขึ้น จึงช่วยชดเชยในส่วนที่ส่งออกไปอียูลดลงได้
ข้อมูลจากสำนักงานบริการด้านการส่งออกข้าวของกัมพูชา ซึ่งเป็นกลุ่มทำงานร่วมระหว่างรัฐกับเอกชน ระบุเมื่อเร็วๆ นี้ว่า สำหรับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2562 ปริมาณข้าวที่ส่งออกไปสหภาพยุโรป (อียู) ลดลงร้อยละ 32 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ส่งออก 93.503 ตัน
อย่างไรก็ตาม ปริมาณข้าวส่งออกไปยังตลาดจีนกลับเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 66 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ที่ส่งออก 118,401 ตัน ขณะที่ยอดส่งออกข้าวรวมทั้งหมดมีปริมาณ 281,538 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.7 โดยประเทศออสเตรเลียเป็นตลาดใหม่
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา อียูได้กำหนดอัตราการจ่ายภาษีศุลกากรเพื่อนำเข้าข้าวจากกัมพูชาและพม่า เป็นเวลา 3 ปี ด้วยเหตุผลเพื่อปกป้องประเทศผู้ผลิตข้าวจากอียู เช่น อิตาลี หลังจากที่อียูมีการนำเข้าข้าวจากทั้ง 2 ประเทศเพิ่มขึ้น
นายคานคุนธี รองประธานบริษัท อัมรู ไรซ์ (กัมพูชา) ที่ส่งออกข้าวไปยังตลาดต่างประเทศ ระบุว่า อัตราภาษีศุลกากรของอียูทำให้ข้าวของกัมพูชาไม่สามารถที่จะแข่งขันได้อีกต่อไป
“แม้ปริมาณการส่งออกไปยังอียูลดลง หลังมีมาตรการป้องกัน แต่ยอดส่งออกไปตลาดจีน และตลาดใหม่อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งออสเตรเลียกำลังเข้ามาช่วยชดเชย”พร้อมเสริมว่า บริษัทอัมรูบรรลุข้อตกลงกับผู้นำเข้าข้าวออสเตรเลีย และคาดว่าจะส่งออกปีละประมาณ 2 หมื่นตัน และในช่วง 6 เดือนแรกของปี ยอดขายข้าวให้แก่ออสเตรเลียอยู่ที่ 8.035 ตัน
ภายใต้โครงการการค้า “ทุกอย่างยกเว้นยุทโธปกรณ์” (อีบีเอ) การส่งออกของกัมพูชาไปยังอียูทั้งหมดเป็นแบบปลอดภาษี ยกเว้น อาวุธ โดยตลาดอียูครองสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 3 ของการส่งออกทั้งหมดของกัมพูชา ที่ประกอบด้วย เสื้อผ้าสำเร็จรูป รองเท้า และรถจักรยาน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์อียูได้เริ่มกระบวนการพิจารณาระยะเวลา 18 เดือน ที่อาจนำไปสู่การระงับสถานะอีบีเอของกัมพูชา จากประวัติด้านสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยของประเทศ
ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ


กราฟราคาที่เกษตรกรขายได้ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% และราคาขายส่งตลาด กทม. ข้าวสารเจ้า 5%
 
 


ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์

1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
ราคาข้าวโพดภายในประเทศในช่วงสัปดาห์นี้ มีดังนี้ราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นไม่เกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 7.87 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน และราคาข้าวโพดที่เกษตรกรขายได้ความชื้นเกิน 14.5 % สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.25 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 6.28 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.48
ราคาข้าวโพดขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ ที่โรงงานอาหารสัตว์รับซื้อสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 9.09 บาท เพิ่มขึ้นจากกิโลกรัมละ 8.98 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.22 และราคาขายส่งไซโลรับซื้อสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.34 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 8.51 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.00
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี. สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 312.40 ดอลลาร์สหรัฐ (9,524 บาท/ตัน) เพิ่มขึ้นจากตันละ 307.60 ดอลลาร์สหรัฐ (9,348 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.56 และเพิ่มขึ้นในรูปของเงินบาทตันละ 176 บาท
ราคาซื้อขายล่วงหน้าในตลาดชิคาโกเดือนกันยายน 2562 ข้าวโพดเมล็ดเหลืองอเมริกันชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยบุชเชลละ 437.92 เซนต์ (5,331 บาท/ตัน) เพิ่มขึ้นจากบุชเชลละ 338.24 เซนต์ (4,105 บาท/ตัน)  ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 29.47 และเพิ่มขึ้นในรูปของเงินบาทตันละ 1,226 บาท


 


มันสำปะหลัง
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
การผลิต
ผลผลิตมันสำปะหลัง ปี 2562 (เริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2561 – กันยายน 2562) คาดว่ามีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.70 ล้านไร่ ผลผลิต 31.43 ล้านตัน ผลผลลิตต่อไร่ 3.62 ตัน เมื่อเทียบกับปี 2561
ที่มีพื้นที่เก็บเกี่ยว 8.33 ล้านไร่ ผลผลิต 29.37 ล้านตัน และผลผลิตต่อไร่ 3.53 ตัน พบว่า พื้นที่เก็บเกี่ยว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ สูงขึ้นร้อยละ 4.44 ร้อยละ 7.01 และร้อยละ 2.55 ตามลำดับ โดยเดือนกรกฎาคม 2562
คาดว่าจะมีผลผลิตออกสู่ตลาด 0.40 ล้านตัน (ร้อยละ 1.27 ของผลผลิตทั้งหมด)
ทั้งนี้ผลผลิตมันสำปะหลังปี 2562 จะออกสู่ตลาดมากในช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2562 ปริมาณ 21.06 ล้านตัน (ร้อยละ 67 ของผลผลิตทั้งหมด)
การตลาด
ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูการเก็บเกี่ยว ทั้งนี้ฝนตกอย่างต่อเนื่องและเกษตรกรเก็บเกี่ยวมันสำปะหลังไม่ครบอายุ ทำให้เชื้อแป้งในหัวมันสำปะหลังค่อนข้างต่ำ
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศประจำสัปดาห์ สรุปได้ดังนี้
ราคาหัวมันสำปะหลังสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1.63 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 1.66 บาท
ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 1.81
ราคามันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 5.63 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 5.56 บาท
ในสัปดาห์ก่อนคิดเป็นร้อยละ 1.26
ราคาขายส่งในประเทศ
ราคาขายส่งมันเส้น (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต จ.ชลบุรี และ จ.อยุธยา) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 6.56 บาท ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาขายส่งแป้งมันสำปะหลังชั้นพิเศษ (ส่งมอบ ณ คลังสินค้าเขต กรุงเทพและปริมณฑล) สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 12.95 ราคาทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี
ราคาส่งออกมันเส้น สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 238 ดอลลาร์สหรัฐฯ (7,259 บาทต่อตัน) ราคาสูงขึ้นจาก
ตันละ 233 ดอลลาร์สหรัฐฯ (7,081 บาทต่อตัน) ในสัปดาห์ก่อน คิดเป็นร้อยละ 2.15       
ราคาส่งออกแป้งมันสำปะหลัง สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา


 


ปาล์มน้ำมัน
1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร คาดว่าปี 2562 ผลผลิตปาล์มน้ำมันเดือนกรกฎาคมจะมีประมาณ 1.203 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 0.217 ล้านตัน ลดลงจากผลผลิตปาล์มทะลาย 1.282 ล้านตัน คิดเป็นน้ำมันปาล์มดิบ 0.231 ล้านตัน ของเดือนมิถุนายน คิดเป็นร้อยละ 6.16 และร้อยละ 6.06 ตามลำดับ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาผลปาล์มทะลาย สัปดาห์นี้เฉลี่ย กก.ละ 3.24 บาท ลดลงจาก กก.ละ 3.39 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 4.42                                                                         
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาน้ำมันปาล์มดิบ สัปดาห์นี้เฉลี่ย กก.ละ 19.63 บาท ลดลงจาก กก.ละ 21.53 บาท ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 8.82                    
2. ภาวะการผลิต การตลาด และราคาในตลาดต่างประเทศ
สต็อกน้ำมันปาล์มมาเลเซียลดลงต่ำสุดในรอบ 11 เดือน
คณะกรรมการน้ำมันปาล์มมาเลเซีย (MPOB) รายงานว่า สต็อกน้ำมันปาล์มดิบของมาเลเซียเดือนมิถุนายน 2562 อยู่ที่ระดับ 2.42 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 0.97 เนื่องจากผลผลิตปาล์มน้ำมันลดลงอยู่ที่ 1.52 ล้านตัน ลดลงร้อยละ 9.2 เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของเดือนที่ผ่านมา ซึ่งสต็อกน้ำมันปาล์มดิบลดลงต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2561 ส่งผลให้ราคาน้ำมันปาล์มดิบปรับตัวสูงขึ้นอยู่ที่ระดับ 1,948 ริงกิตต่อตัน (470.53 ดอลลาร์สหรัฐฯ) เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.3 ขณะที่ผลผลิตปาล์มน้ำมันในครึ่งปีแรกอยู่ที่ 9.79 ล้านตัน เมื่อเทียบกับปี 2561 ผลผลิตปาล์มน้ำมันอยู่ที่ 8.9 ล้านตัน สำหรับการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบในเดือนมิถุนายน 2562 ลดลงร้อยละ 19.35 เนื่องจากการชะลอตัวของประเทศผู้นำเข้าคืออินเดีย
ราคาในตลาดต่างประเทศ
ตลาดมาเลเซีย ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันปาล์มดิบสัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 1,915.99 ดอลลาร์มาเลเซีย  (14.45 บาท/กก.) สูงขึ้นจากตันละ 1,878.72 ดอลลาร์มาเลเซีย  (14.12 บาท/กก.)  ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 1.98  
ตลาดรอตเตอร์ดัม ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันปาล์มดิบสัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 490.50 ดอลลาร์สหรัฐฯ  (15.17 บาท/กก.) ลดลงจากตันละ 501.25 ดอลลาร์สหรัฐฯ  (15.45 บาท/กก.) ในสัปดาห์ที่ผ่านมาร้อยละ 2.14  
หมายเหตุ  :  ราคาในตลาดต่างประเทศเฉลี่ย 5 วัน
 


อ้อยและน้ำตาล

 

 
ถั่วเหลือง

 

 
ยางพารา

 

 
สับปะรด



 

 
ถั่วเขียว
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดใหญ่คละสัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 18.24 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวมันเมล็ดเล็กคละ และถั่วเขียวผิวดำคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 29.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.00 บาท ลดลงจากราคากิโลกรัมละ 26.20 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.76
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 29.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 17.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ก่อน
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 31.00 บาท สูงขึ้นจากราคากิโลกรัมละ 30.80 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.65
ราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี        
ถั่วเขียวผิวมันเกรดเอ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 983.20 ดอลลาร์สหรัฐ (29.98 บาท/กิโลกรัม) ลดลงจากตันละ 985.60 ดอลลาร์สหรัฐ (29.95 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.24 แต่สูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.03 บาท
ถั่วเขียวผิวมันเกรดบี สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 884.40 ดอลลาร์สหรัฐ (26.96 บาท/กิโลกรัม) ลดลงจากตันละ 893.20 ดอลลาร์สหรัฐ (27.14 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.99 และลดลงในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.18 บาท
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 983.20 ดอลลาร์สหรัฐ (29.98 บาท/กิโลกรัม) ลดลงจากตันละ 985.60 ดอลลาร์สหรัฐ (29.95 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.24 แต่สูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.03 บาท
ถั่วเขียวผิวดำ ชั้น 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 586.40 ดอลลาร์สหรัฐ (17.88 บาท/กิโลกรัม) ลดลงจากตันละ 589.00 ดอลลาร์สหรัฐ (17.90 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.44 และลดลงในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.02 บาท
ถั่วนิ้วนางแดง สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 1,042.40 ดอลลาร์สหรัฐ (31.57 บาท/กิโลกรัม) สูงขึ้นจากตันละ 1,038.80 ดอลลาร์สหรัฐ (31.57 บาท/กิโลกรัม) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.35 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทกิโลกรัมละ 0.21 บาท


 

 
ถั่วลิสง
 
สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
ความเคลื่อนไหวของราคาประจำสัปดาห์ มีดังนี้
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ

ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกแห้ง สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 65.00 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 79.61 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อย 18.35
ราคาถั่วลิสงทั้งเปลือกสด สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 30.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 27.83 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อย 7.80
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดพิเศษ สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 52.50 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 51.00 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อย 2.94
ราคาถั่วลิสงกะเทาะเปลือกชนิดคัดธรรมดา สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 48.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 47.10 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อย 0.90

 

 
ฝ้าย
 
          1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาภายในประเทศ
          ราคาที่เกษตรกรขายได้
          ราคาฝ้ายรวมเมล็ดชนิดคละ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
          ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้าตลาดนิวยอร์ก (New York Cotton Futures)
          ราคาซื้อ-ขายล่วงหน้า เพื่อส่งมอบเดือนตุลาคม 2562 สัปดาห์นี้เฉลี่ยปอนด์ละ 64.17 (กิโลกรัมละ 43.74 บาท) ลดลงจากปอนด์ละ 66.21 (กิโลกรัมละ 44.99 บาท) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.08 และลดลงในรูปของเงินบาทกิโลกรัมละ 1.25 บาท

 
 

 
ไหม

ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 1 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,631 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 1,659 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา  ร้อยละ 1.67
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 2 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 1,301 บาท  ลดลงจากกิโลกรัมละ 1,334 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา  ร้อยละ 2.47
ราคาเส้นไหมพื้นเมืองเกรด 3 สัปดาห์นี้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 836 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา  

 
 

 
ปศุสัตว์
 
สุกร
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ  
ภาวะตลาดสุกรไม่ค่อยคึกคัก ในสัปดาห์นี้มีปริมาณสุกรออกสู่ตลาดมากประกอบกับมีอาหารตามธรรมชาติมีมากขึ้นในช่วงหน้าฝน ส่งผลให้ราคาสุกรมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ลดลงเมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่   ผ่านมา แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะลดลงเล็กน้อย
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
สุกรมีชีวิตพันธุ์ผสมน้ำหนัก 100 กิโลกรัมขึ้นไป ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ  71.56 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 72.48 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.27 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 72.29 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 70.82 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 71.19 บาท  และภาคใต้ กิโลกรัมละ 74.08 บาท ส่วนราคาลูกสุกรตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้  ตัวละ 2,100 บาท (บวกลบ 70 บาท) ลดลงจากตัวละ 2,200 บาท (บวกลบ 74 บาท) ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 4.55
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งสุกรมีชีวิต ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 73.50 บาท  ลดลงจากกิโลกรัมละ 73.83 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา  ร้อยละ 0.45

 
ไก่เนื้อ
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ
สัปดาห์นี้ราคาไก่เนื้อมีชีวิตที่เกษตรกรขายได้ค่อนข้างทรงตัวจากสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความต้องการบริโภคไก่เนื้ออ่อนตัวลงเล็กน้อยจากในช่วงนี้มีฝนตกทำให้มีอาหารและสัตว์น้ำตามธรรมชาติออกสู่ตลาด  แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัว
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไก่เนื้อที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ กิโลกรัมละ 36.94 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 37.00บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.16 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 35.00 บาท  ภาคกลาง กิโลกรัมละ 36.86 บาท ภาคใต้ กิโลกรัมละ 40.12 บาท  และภาคตะวันออกเฉียงเหนือไม่มีรายงาน ส่วนราคาลูกไก่เนื้อตามประกาศของบริษัท ซี.พี ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 14.50 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา   
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไก่มีชีวิตหน้าโรงฆ่า จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ  36.50 บาท และราคาขายส่งไก่สดทั้งตัวรวมเครื่องใน เฉลี่ยกิโลกรัมละ 49.00 บาท ทรงตัวสัปดาห์ที่ผ่านมา  

 
ไข่ไก่
สถานการณ์การผลิต การค้า และราคาในประเทศ   
สัปดาห์นี้ภาวะตลาดไข่ไก่ ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ลดลงเล็กน้อยจากสัปดาห์ที่ผ่านมา  เนื่องจากในช่วงนี้แทบทุกภาคมีฝนตกทำให้มีอาหารและสัตว์น้ำตามธรรมชาติออกสู่ตลาด  ส่งผลให้ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้อ่อนตัวลงเล็กน้อย แนวโน้มสัปดาห์หน้าคาดว่าราคาจะทรงตัว
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่ไก่ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ 283 บาท ลดลงจากร้อยฟองละ 285 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.70 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 294 บาท  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 284 บาท ภาคกลางร้อยฟองละ 279 บาท  และภาคใต้ไม่มีรายงาน  ส่วนราคาลูกไก่ไข่ตามประกาศของบริษัท ซี.พี. ในสัปดาห์นี้ ตัวละ 25.00 บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่ไก่ (เฉลี่ยเบอร์ 0-4) ในตลาดกรุงเทพฯจากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ  321  บาท ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา

 

ไข่เป็ด

ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาไข่เป็ดที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศร้อยฟองละ  326 บาท ลดลงจากร้อยฟองละ 335 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 2.69 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ ร้อยฟองละ 336 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยฟองละ 338 บาท ภาคกลาง ร้อยฟองละ 308บาท และภาคใต้ ร้อยละ 313 บาท
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาขายส่งไข่เป็ดคละ ณ แหล่งผลิตภาคกลาง จากกรมการค้าภายใน เฉลี่ยร้อยฟองละ 350 บาท  ทรงตัวเท่ากับสัปดาห์ที่ผ่านมา

 
โคเนื้อ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคาโคพันธุ์ลูกผสม (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้ เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 88.88 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 89.05 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 0.19 โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 89.35 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 84.04 บาท ภาคกลาง กิโลกรัมละ 88.18 บาท และภาคใต้กิโลกรัมละ 101.72 บาท

 
กระบือ
ราคาที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศ
ราคากระบือ (ขนาดกลาง) ที่เกษตรกรขายได้เฉลี่ยทั้งประเทศกิโลกรัมละ 68.29 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 68.99 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา ร้อยละ 1.01  โดยแยกเป็นรายภาคดังนี้ ภาคเหนือ กิโลกรัมละ 89.70 บาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กิโลกรัมละ 65.02 บาท ภาคกลางและภาคใต้ไม่มีรายงานราคา

 
 


 
ประมง

1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
เปลี่ยนถ่ายกระชังลูกใหม่หรือเพิ่มออกซิเจนในน้ำนช่วงดังกล่าวเป็นช่วงที่น้ำตาย โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนบวกกับออกซิเจนในน้ำค่อนในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (ระหว่างวันที่ 5 – 11 กรกฏาคม 2562) ไม่มีรายงานปริมาณจากองค์การสะพานปลากรุงเทพฯ
การตลาด
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย (ขนาด 3-4 ตัว/กก.) ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 48.00 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 36.95 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 11.05 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.2 ปลาช่อน (ขนาดกลาง) ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 78.96 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 80.10 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.14 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 60 ตัวต่อกิโลกรัมและราคา ณ ตลาดทะเลไทย     จ.สมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 148.92 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 148.19 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.73 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดทะเลไทย จ.สมุทรสาครขนาด 70 ตัวต่อกิโลกรัม เฉลี่ยกิโลกรัมละ 145.00 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 140.83 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 4.17 บาท
2.5 ปลาทู (ขนาดกลาง) ราคาปลาทูสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 77.11 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 80.84 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 3.73 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.6 ปลาหมึกกระดอง (ขนาดกลาง) ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ย กิโลกรัมละ 130.00 บาท ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 132.00 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 2.00 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.12 บาท ราคาสูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 8.11 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.01 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% เฉลี่ยสัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา